20 รูปแบบแท่งเทียน (candlestick patterns) ที่สำคัญในการเทรดฟอร์เร็กซ์

รูปแบบแท่งเทียน (candlestick patterns) ถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจอารมณ์ของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาฟอร์เร็กซ์ เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการข้อมูลในการช่วยตัดสินใจซื้อขาย มาดูรูปแบบแท่งเทียนที่ดีที่สุด 20 อันดับแรก ที่จะยกระดับประสิทธิภาพการซื้อขายของคุณได้ดียิ่งขึ้น

รูปแบบแท่งเทียน คืออะไร?

แท่งเทียน เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ แผนภูมิแท่งเทียนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตีความข้อมูลราคาได้อย่างรวดเร็วจากการดูแถบราคาเพียงไม่กี่แท่ง

คุณสมบัติพื้นฐาน 3 ประการของรูปแบบแท่งเทียน

(รูปที่ 1 : โครงสร้างของรูปแบบแท่งเทียน)

  • ตัวแท่งเทียน ซึ่งแสดงถึงช่วงเปิดถึงปิด
  • ไส้เทียนหรือเงา บ่งบอกถึงจุดสูงสุดและต่ำสุดระหว่างวัน
  • สีของแท่งเทียน ซึ่งเผยให้เห็นทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาด
    • ตัวสีเขียว (หรือสีขาว) บ่งบอกถึงราคาที่เพิ่มขึ้น
    • ตัวสีแดง (หรือสีดำ) แสดงถึงราคาที่ลดลง

ประเภทของการก่อตัวของแท่งเทียน

การก่อตัวของแท่งเทียนมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกระทิง ตลาดหมี ความต่อเนื่อง และการกลับตัว จำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องเรียนรู้วิธีสังเกตรูปแบบเหล่านี้ และเข้าใจความสำคัญของรูปแบบเหล่านี้ การเรียนรู้รูปแบบแท่งเทียนแบบต่างๆ ให้เข้าใจ จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการซื้อขายได้

รูปแบบแท่งเทียนกระทิง

การก่อตัวของแท่งเทียนกระทิง สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวหลังจากแนวโน้มขาลงหรือความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ รูปแบบเหล่านี้อาจมีแท่งเทียนที่ดูเป็นหมีตั้งแต่หนึ่งแท่งขึ้นไป

รูปแบบแท่งเทียนหมี

การก่อตัวของแท่งเทียนแบบหมี บ่งชี้ถึงราคาที่ต่ำกว่าล่วงหน้าและสามารถยืนยันแนวโน้มที่มีอยู่หรือส่งสัญญาณการกลับตัวหลังจากการฟื้นตัวในภาวะกระทิง

รูปแบบแท่งเทียนญี่ปุ่น

การก่อตัวของแท่งเทียนญี่ปุ่น เป็นรากฐานสำหรับรูปแบบแท่งเทียนทั้งหมด ปัจจุบันเป็นวิธีการสร้างกราฟที่ได้รับความนิยมสำหรับเทรดเดอร์จำนวนมาก

รูปแบบของแท่งเทียนที่ควรรู้ 20 อันดับ

Bullish Reversal Patterns (รูปแบบแท่งเทียนการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น)

Hammer

(รูปที่ 2 : รูปแบบแท่งเทียน Hammer)

  • รูปแบบแท่งเทียน Hammer เกิดขึ้นเมื่อสินทรัพย์มีราคาที่ต่ำเกินกว่าราคาเปิดอย่างมีนัยสำคัญ แต่แล้วสินทรัพย์กลับตัวขึ้นเพื่อปิดและใกล้กับราคาเปิด
  • เงาด้านล่างยาวของรูปแบบนี้บ่งชี้ว่า ในตอนแรกผู้ขายดันราคาลง แต่ผู้ซื้อกลับมาควบคุมได้และดันราคากลับขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวของภาวะกระทิงที่อาจเกิดขึ้น

Bullish Engulfing

(รูปที่ 3 : รูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing)

  • รูปแบบแท่งเทียน Bullish Engulfing เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนสีแดงเล็กๆ ตามมาด้วยแท่งเทียนสีเขียวที่มีสาระสำคัญมากกว่า ซึ่งครอบคลุมแท่งเทียนจากวันก่อนหน้าทั้งหมด
  • รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการซื้อได้เอาชนะแรงกดดันในการขาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาดซึ่งอาจนำไปสู่แนวโน้มราคาที่สูงขึ้น

Morning Star

(รูปที่ 4 : รูปแบบแท่งเทียน Morning Star)

  • รูปแบบแท่งเทียน Morning Star ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง เทียนสีแดงยาว เทียนขนาดเล็ก (สีแดงหรือสีเขียว) ที่มีช่องว่างต่ำกว่า และเทียนสีเขียวยาวที่ปิดภายในช่วงของแท่งเทียนแรก
  • รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง เนื่องจากแท่งเทียนขนาดเล็กแสดงถึงความไม่แน่ใจในตลาด ตามด้วยแท่งเทียนสีเขียวที่แข็งแกร่งที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของภาวะกระทิง

Piercing Line

(รูปที่ 5 : รูปแบบแท่งเทียน Piercing Line)

  • รูปแบบแท่งเทียน Piercing Line เป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่งที่มีแท่งเทียนสีแดงยาว ตามด้วยแท่งเทียนสีเขียวยาวที่เปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของวันก่อนหน้า แต่ปิดเหนือจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนแรกมากกว่าครึ่งหนึ่ง
  • การปิดแท่งเทียนอันที่สองบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาด และบ่งชี้ว่าภาวะกระทิงกำลังถูกควบคุม

Inverted Hammer

(รูปที่ 6 : รูปแบบแท่งเทียน Inverted Hammer)

  • รูปแบบแท่งเทียน Inverted Hammer เป็นรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยวที่มีตัวแท่งเล็ก เงาด้านบนยาว และเงาด้านล่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
  • รูปแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง และเงาด้านบนยาวแสดงถึงผู้ซื้อที่พยายามจะดันราคาให้สูงขึ้น แท่งเล็กๆ บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแรงกดดันในการซื้อเพิ่มขึ้น

Bearish Reversal Patterns (รูปแบบแท่งเทียนการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง)

Doji

(รูปที่ 7 : รูปแบบแท่งเทียน Doji)

  • รูปแบบแท่งเทียน Doji เกิดขึ้นเมื่อราคาเปิดและราคาปิดของหลักทรัพย์เกือบเท่ากัน ส่งผลให้แท่งเทียนมีขนาดเล็กหรือไม่มีเลยและอาจมีเงายาว
  • รูปแบบนี้แสดงถึงความไม่แน่นอนของตลาด เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่สามารถควบคุมตลาดได้ และอาจส่งสัญญาณถึงการกลับตัวของแนวโน้มหรือการดำเนินต่อไป ขึ้นอยู่กับบริบทของแท่งเทียนก่อนหน้าและแนวโน้มของตลาดโดยรวม

Bearish Engulfing

(รูปที่ 8 : รูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing)

  • รูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing เกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนสีเขียวขนาดเล็กตามมาด้วยแท่งเทียนสีแดงขนาดใหญ่ที่กลืนแท่งเทียนของวันก่อนหน้าจนหมด
  • รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันในการขายเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นของตลาดเปลี่ยนไปสู่ภาวะหมี ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของราคาที่ลดลง

Evening Star

(รูปที่ 9 : รูปแบบแท่งเทียน Evening Star)

  • รูปแบบแท่งเทียน Evening Star ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง: เทียนสีเขียวยาว เทียนขนาดเล็ก (สีเขียวหรือสีแดง) ที่มีช่องว่างสูงกว่า และเทียนสีแดงยาวที่ปิดภายในช่วงของแท่งเทียนแรก
  • รูปแบบนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่อ่อนตัวลง โดยแท่งเทียนขนาดเล็กแสดงถึงความไม่แน่ใจของตลาด ตามมาด้วยแท่งเทียนสีแดงที่แข็งแกร่งที่ บ่งบอกถึงการกลับตัวของตลาดหมี

Dark Cloud Cover

(รูปที่ 10 : รูปแบบแท่งเทียน Dark Cloud Cover)

  • รูปแบบแท่งเทียน Dark Cloud Cover คือรูปแบบแท่งเทียนสองแท่งที่มีแท่งเทียนสีเขียวยาว ตามด้วยแท่งเทียนสีแดงยาวที่เปิดสูงกว่าราคาสูงสุดของวันก่อนหน้า แต่ปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนแรกมากกว่าครึ่งทาง
  • การปิดแท่งเทียนอันที่สอง บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของตลาด ซึ่งบ่งบอกว่าหมีกำลังได้รับการควบคุม

Shooting Star

(รูปที่ 11 : รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star)

  • รูปแบบแท่งเทียน Shooting Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยวที่มีตัวแท่งเล็ก เงาด้านบนยาว และเงาด้านล่างเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
  • รูปแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น และเงาด้านบนยาวแสดงถึงผู้ขายที่พยายามจะดันราคาให้ต่ำลง แท่งเล็กๆ บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นเมื่อแรงกดดันในการขายเพิ่มขึ้น

Continuation Candlestick Patterns (รูปแบบแท่งเทียนขาขึ้นแบบต่อเนื่อง)

Rising Three Methods

(รูปที่ 12 : รูปแบบแท่งเทียน Rising Three Methods)

  • Rising Three Methods หรือรูปแบบการต่อเนื่องแบบกระทิงนี้ ประกอบด้วยแท่งเทียนสีเขียวยาว ตามด้วยแท่งเทียนสีแดงเล็กๆ สามแท่งที่อยู่ในช่วงของแท่งเทียนแท่งแรก และปิดท้ายด้วยแท่งเทียนสีเขียวที่อยู่สูงกว่าแท่งเทียนสีเขียวแท่งแรก
  • รูปแบบนี้บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป

Falling Three Methods

(รูปที่ 13 : รูปแบบแท่งเทียน Falling Three Methods)

  • Falling Three Methods หรือรูปแบบการต่อเนื่องแบบหมีนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ Rising Three Methods เริ่มต้นด้วยเทียนสีแดงยาว ตามด้วยเทียนสีเขียวเล็กๆ สามเทียนภายในช่วงของเทียนสีแดงเริ่มต้น และปิดท้ายด้วยเทียนสีแดงที่อยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของเทียนสีแดงแรก
  • รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงจะยังคงอยู่

On-Neck Line

(รูปที่ 14 : รูปแบบแท่งเทียน On-Neck Line)

  • On-Neck Line หรือรูปแบบการต่อเนื่องแบบหมีนี้เกิดขึ้นในช่วงขาลง ประกอบด้วยเทียนสีแดงยาวตามด้วยเทียนสีเขียวที่เปิดต่ำกว่าราคาปิดของเทียนก่อนหน้าและปิดใกล้จุดต่ำสุดของเทียนสีแดงก่อนหน้า
  • รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาลงมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่

Separating Lines

(รูปที่ 15 : รูปแบบแท่งเทียน Separating Lines)

  • Separating Lines หรือรูปแบบต่อเนื่องนี้สามารถเป็นได้ทั้งภาวะกระทิงหรือหมี ในแนวโน้มขาขึ้น
  • แท่งเทียนสีเขียวจะตามมาด้วยแท่งเทียนสีแดง ที่เปิดที่ระดับเดียวกับการเปิดของแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า
  • ในแนวโน้มขาลง แท่งเทียนสีแดงจะตามมาด้วยแท่งเทียนสีเขียวที่เปิดที่ระดับเดียวกับการเปิดของแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้า แนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิม

Side-by-Side White Lines

(รูปที่ 16 : รูปแบบแท่งเทียน Side-by-Side White Lines)

  • Side-by-Side White Lines หรือรูปแบบการต่อเนื่องแบบกระทิงนี้มีแท่งเทียนสีเขียวยาวสองแท่งซึ่งมีราคาเปิดใกล้เคียงกัน แท่งเทียนสีเขียวอันที่สองควรปิดสูงกว่าแท่งแรก
  • บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาขึ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป

Other Candlestick Patterns (รูปแบบแท่งเทียนแบบอื่นๆ)

Harami

(รูปที่ 17 : รูปแบบแท่งเทียน Harami)

  • รูปแบบแท่งเทียน Harami ประกอบด้วยเทียนขนาดเล็ก (สีแดงหรือสีเขียว) ที่มีอยู่ทั้งหมดภายในช่วงของเทียนขนาดใหญ่ของวันก่อนหน้า
  • รูปแบบนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัว หรือการแข็งตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากแท่งเทียนขนาดเล็กส่งสัญญาณถึงโมเมนตัมที่ลดลงจากการเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่งของวันก่อนหน้า

Spinning Top

(รูปที่ 18 : รูปแบบแท่งเทียน Spinning Top)

  • รูปแบบแท่งเทียน Spinning Top คือรูปแบบแท่งเทียนที่มีแท่งเทียนขนาดเล็กและมีเงาด้านบนและล่างยาว ซึ่งบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญในระหว่างช่วงการซื้อขายแต่ปิดใกล้กับราคาเปิด
  • รูปแบบนี้แสดงถึงความไม่แน่ใจของตลาด และชี้ให้เห็นว่าทั้งกระทิงและหมีไม่สามารถรักษาการควบคุมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัวของแนวโน้มหรือความต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับแนวโน้มของตลาดโดยรวม

Marubozu

(รูปที่ 19 : รูปแบบแท่งเทียน Marubozu)

  • รูปแบบแท่งเทียน Marubozu มีลำตัวยาวและมีเงาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย บ่งชี้ว่าราคาเปิดเป็นราคาสูงหรือต่ำของเซสชัน และราคาปิดอยู่อีกด้านหนึ่ง
  • Marubozu สีเขียวบ่งบอกถึงแรงกดดันในการซื้อที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ Marubozu สีแดงบ่งบอกถึงแรงกดดันในการขายที่แข็งแกร่ง
  • รูปแบบนี้สามารถส่งสัญญาณความต่อเนื่องหรือการเร่งความเร็วของแนวโน้มปัจจุบัน

Three White Soldiers

(รูปที่ 20 : รูปแบบแท่งเทียน Three White Soldiers)

  • รูปแบบแท่งเทียน Three White Soldiers ประกอบด้วยแท่งเทียนสีเขียวยาวติดต่อกัน 3 แท่ง โดยแต่ละแท่งมีราคาปิดที่สูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า และแต่ละแท่งเปิดภายในตัวแท่งเทียนก่อนหน้า
  • รูปแบบนี้บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง และอาจส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นหรือความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่
  • เทรดเดอร์มักมองว่ารูปแบบ Three White Soldiers เป็นเครื่องยืนยันตลาดกระทิง และอาจพิจารณาว่าเป็นโอกาสในการเข้าสู่ตำแหน่งซื้อหรือเพิ่มไปยังตำแหน่งซื้อที่มีอยู่

Three Black Crows

(รูปที่ 21 : รูปแบบแท่งเทียน Three Black Crows)

  • รูปแบบแท่งเทียน Three Black Crows ประกอบด้วยแท่งเทียนสีแดงยาวติดต่อกันสามแท่ง โดยแต่ละแท่งมีราคาปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า และแต่ละแท่งจะเปิดภายในตัวแท่งเทียนก่อนหน้า
  • รูปแบบนี้บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาลงที่แข็งแกร่ง และอาจส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นหรือความต่อเนื่องของแนวโน้มขาลงที่มีอยู่
  • เทรดเดอร์มักมองว่ารูปแบบ Three Black Crows เป็นเครื่องยืนยันตลาดหมี และอาจพิจารณาว่าเป็นโอกาสในการเข้าสู่สถานะ Short หรือเพิ่มไปยังสถานะ Short ที่มีอยู่

รูปแบบแท่งเทียนเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน?

  • รูปแบบแท่งเทียนถูกใช้อย่างกว้างขวาง โดยเทรดเดอร์เพื่อทำนายทิศทางราคา แต่ความน่าเชื่อถืออาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ
  • สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ารูปแบบแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องเสมอไป และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรวมรูปแบบเหล่านี้เข้ากับ กลยุทธ์การซื้อขาย อื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อรูปแบบแท่งเทียน

กรอบเวลา

โดยทั่วไปกรอบเวลาที่สั้นกว่าจะมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่ากรอบเวลาที่ยาวกว่า เนื่องจากมีความผันผวนเพิ่มขึ้น ความรู้สึกของผู้ซื้อขายมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งในระยะสั้น ในขณะที่กรอบเวลารายวันหรือรายสัปดาห์ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้มากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มระยะยาว

เครื่องมือการซื้อขาย

เครื่องมือการซื้อขายที่แตกต่างกัน จะมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการซื้อขายสินทรัพย์บางประเภทเท่านั้น อย่างรูปแบบแท่งเทียนบางรูปแบบ อาจเหมาะสมกว่าสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ ในขณะที่รูปแบบอื่นๆ อาจเหมาะกับการซื้อขายกับหุ้น โดยทั่วไป ยิ่งปริมาณการซื้อขายสูง รูปแบบแท่งเทียนก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้นเท่านั้น

ระดับแนวรับและแนวต้าน

บริบทที่เกิดรูปแบบแท่งเทียนถือเป็นสิ่งสำคัญ หากแนวรับและแนวต้านอยู่ใกล้ๆ การซื้อขายก็มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น

ขนาดรูปแบบ

รูปแบบที่ใหญ่ขึ้นมีแนวโน้มที่จะเชื่อถือได้มากกว่า เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญมักจะให้สัญญาณที่แรงกว่า

ประเภทรูปแบบแท่งเทียน

ความน่าเชื่อถือของรูปแบบแท่งเทียนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบเฉพาะ โดยทั่วไป รูปแบบที่มีแท่งเทียนมากกว่าจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า แม้ว่าอาจปรากฏไม่บ่อยก็ตาม

สรุปท้ายบท

  • รูปแบบแท่งเทียนใช้เพื่อทำนายทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต
  • การทำความคุ้นเคยกับรูปแบบแท่งเทียนแต่ละประเภท เป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจในการซื้อขายฟอร์เร็กซ์ของคุณได้ดีขึ้น
  • เมื่อคุณใช้รูปแบบแท่งเทียนใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า แม้ว่าจะเหมาะสำหรับการทำนายแนวโน้มอย่างรวดเร็ว แต่ควรใช้ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ทางเทคนิครูปแบบอื่นๆ ประกอบ เพื่อยืนยันแนวโน้มโดยรวมด้วย
  • แม้ว่ารูปแบบเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือคุณไม่ควรพึ่งพาแท่งเทียนรูปแบบนี้รูปแบบเดียว แต่ให้พิจารณาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งของแนวทางการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมแทน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *