กราฟ Forex มีกี่ประเภท อธิบายข้อแตกต่าง

กราฟ Forex มีกี่ประเภท อธิบายข้อแตกต่าง

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของโลกหรือ Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนตลอดเวลา การตัดสินใจที่จะซื้อขายและเวลาเริ่มแต่ละครั้ง จะต้องผ่านการวิเคราะห์ให้มั่นใจเสียก่อนด้วยการอ่าน “กราฟฟอเร็กซ์แบบเรียลไทม์” เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจึงอยากพาทุกท่านมารู้จักวิธีการอ่านกราฟฟอเร็กซ์แบบเรียลไทม์ประเภทต่างๆ ก่อนเริ่มต้นเทรดจริง

กราฟฟอเร็กซ์ คืออะไร?

  • กราฟฟอเร็กซ์ คือการแสดงภาพกราฟิกที่แสดงให้เห็นว่าราคาของคู่สกุลเงินเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป
  • ราคาจะถูกพล็อตบนแกน y แนวตั้ง ในขณะที่แกน x แนวนอนแสดงเวลา
  • คุณสามารถดูกราฟฟอเร็กซ์สำหรับคู่สกุลเงินที่คุณเลือกได้ เช่น EUR/USD (ยูโรเป็นดอลลาร์สหรัฐ GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษเป็นเยนญี่ปุ่น) และคู่สกุลเงินอื่นๆ
  • เทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่การซื้อขายฟอเร็กซ์ การเรียนรู้ที่จะใช้กราฟเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น

กราฟฟอเร็กซ์และกรอบเวลา

  • ระยะเวลาที่แสดงบนกราฟฟอเร็กซ์จะขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่คุณเลือก
  • กราฟฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่ ถูกตั้งค่าเป็นช่วงเวลารายวันตามค่าเริ่มต้น โดยจะแสดงข้อมูลการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมง แต่เทรดเดอร์สามารถเลือกกรอบเวลาอื่นๆ เช่น เป็นนาทีหรือเป็นเดือน
  • การเรียนรู้การอ่านกราฟฟอเร็กซ์แบบเรียลไทม์ขั้นสูงและกราฟการซื้อขายแบบเรียลไทม์ จะช่วยให้คุณมองเห็นแนวโน้มและคว้าโอกาสในการสร้างรายได้จากฟอร์เร็กซ์ที่มากขึ้น

5 กราฟฟอเร็กซ์ ที่มีความสำคัญ

กราฟฟอเร็กซ์ประเภทที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์คือ

  • กราฟเส้น (Line charts)
  • กราฟแท่ง (Bar charts)
  • กราฟแท่งเทียน (Candlestick charts)
  • กราฟเรนโก (Renko charts)
  • กราฟไฮเกน อาชิ (Heikin-Ashi charts)

กราฟเส้น (Line charts)

(รูปที่ 1 : กราฟเส้น มีลักษณะเป็นเส้นเชื่อมระหว่างราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา )

กราฟเส้นเป็นรูปแบบการแสดงราคาแบบง่ายที่สุด เป็นเส้นเชื่อมระหว่างราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา กราฟเส้นใช้งานง่ายและมีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการภาพรวมทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคา

ข้อดี-ข้อเสียของกราฟเส้น

ข้อดี
  • สะดวกในการใช้ กราฟเส้นเป็นกราฟประเภทที่ง่ายที่สุดในการทำความเข้าใจและใช้งาน เนื่องจากประกอบด้วยเส้นเดียวที่เชื่อมโยงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำในแต่ละช่วงเวลา
  • มุมมองโดยรวม กราฟเส้นแสดงมุมมองโดยรวมของการเคลื่อนไหวของราคา สิ่งนี้มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับตลาด
  • เหมาะสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ เพราะกราฟเส้นสามารถใช้กับกลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และ การซื้อขายตามข่าว
ข้อเสีย
  • ไม่แสดงราคาสุดขั้ว กราฟเส้นไม่แสดงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งอาจทำให้ระบุแนวโน้มและรูปแบบได้ยาก ตัวอย่างเช่น หากราคาแตะระดับสูงสุดใหม่ แต่กราฟเส้นไม่สะท้อนสิ่งนี้ เทรดเดอร์อาจพลาดข้อมูลสำคัญ
  • อาจไวต่อสัญญาณรบกวนได้ กราฟเส้นอาจไวต่อสัญญาณรบกวนที่เกิดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย สิ่งนี้อาจทำให้ยากต่อการระบุแนวโน้มที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น หากราคาทำให้เกิดความผันผวนขึ้นลงเล็กน้อย ก็อาจทำให้รู้สึกว่าแนวโน้มมีการเปลี่ยนแปลง

สรุปเกี่ยวกับกราฟเส้น

กราฟเส้นเป็นเครื่องมืออันมีค่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคา และใช้กลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ อย่างไรก็ตาม อาจไม่ละเอียดเท่ากับกราฟประเภทอื่นๆ และอาจไวต่อสัญญาณรบกวนได้

กราฟแท่ง (Bar charts)

(รูปที่ 2 : กราฟแท่ง มีลักษณะเป็นแถบแนวตั้งที่แสดงราคาเปิด ปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา)

กราฟแท่งมีรายละเอียดมากกว่า กราฟเส้น เป็นแถบแนวตั้งที่แสดงราคาเปิด ปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา กราฟแท่งมีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุแนวโน้มและรูปแบบ

ข้อดี-ข้อเสียของกราฟแท่ง

ข้อดี
  • ข้อมูลรายละเอียดมากกว่ากราฟเส้น กราฟแท่งแสดงราคาเปิด ปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาได้ดียิ่งขึ้น
  • ง่ายต่อการระบุแนวโน้มและรูปแบบ กราฟแท่งสามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบ เช่น แนวโน้มขาขึ้นและแนวโน้มขาลงสามเหลี่ยมธง และอื่นๆ
  • เหมาะสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายต่างๆ กราฟแท่งสามารถใช้กับกลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการซื้อขายตามข่าว
ข้อเสีย
  • อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ กราฟแท่งอาจซับซ้อนกว่าในการทำความเข้าใจมากกว่ากราฟเส้น
  • อาจไวต่อเสียงรบกวนได้ กราฟแท่งอาจไวต่อสัญญาณรบกวนที่เกิดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย

สรุปเกี่ยวกับกราฟแท่ง

กราฟแท่งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงระบุแนวโน้มและรูปแบบ อย่างไรก็ตาม อาจมีความซับซ้อนในการทำความเข้าใจมากกว่ากราฟเส้นและอาจไวต่อสัญญาณรบกวนได้

กราฟแท่งเทียน (Candlestick charts)

(รูปที่ 3 : กราฟแท่งเทียน มีลักษณะเป็นแถบสีเขียว (ราคาปิด > ราคาเปิด ) และสีแดง (ราคาปิด < ราคาเปิด) ที่แสดงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา)

กราฟแท่งเทียนเป็นกราฟประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ เป็นตัวเลขสี่จุดที่แสดงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในแต่ละช่วงเวลา กราฟแท่งเทียนมีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุแนวโน้ม รูปแบบ และความผันผวน

ข้อดี-ข้อเสียของกราฟแท่งเทียน

ข้อดี
  • กราฟแท่งเทียนใช้สีและขนาด เพื่อแสดงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด สิ่งนี้ มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าใจทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว
  • ระบุแนวโน้มและรูปแบบได้ง่ายขึ้น กราฟแท่งเทียนสามารถระบุแนวโน้มและรูปแบบได้ง่ายกว่ากราฟแท่ง เนื่องจากเทียนให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา
  • การกรองสัญญาณรบกวนที่เชื่อถือได้มากขึ้น กราฟแท่งเทียนจะพิจารณาข้อมูลราคาทั้งหมด รวมถึงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด สิ่งนี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์กรองสัญญาณรบกวนที่เกิดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อยได้
ข้อเสีย
  • อาจเข้าใจได้ยากขึ้น กราฟแท่งเทียนอาจเข้าใจได้ยากกว่ากราฟแท่ง เนื่องจากจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมและอาจทำให้ดูรกตามากขึ้น ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์มือใหม่อาจไม่เข้าใจความหมายของเทียนประเภทต่างๆ
  • อาจไวต่อเสียงรบกวนได้ กราฟแท่งเทียนอาจได้รับผลกระทบจากสัญญาณรบกวนที่เกิดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้ระบุแนวโน้มและรูปแบบได้ยาก ตัวอย่างเช่น แท่งเทียนที่มีแท่งเทียนขนาดเล็กสามารถบ่งชี้ว่าไม่มีแนวโน้มได้

สรุปเกี่ยวกับกราฟแท่งเทียน

ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกระหว่างกราฟแท่งเทียนและกราฟแท่งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและกลยุทธ์การซื้อขาย กราฟแท่งเทียนมีประโยชน์มากกว่า สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงระบุแนวโน้มและรูปแบบ กราฟแท่งสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าและไวต่อสัญญาณรบกวนน้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

กราฟเรนโก (Renko charts)

(รูปที่ 4 : กราฟเรนโก มีลักษณะคล้ายกับกราฟแท่งเทียน ซึ่งจะระบุราคา เปิด, ปิด, ราคาเฉลี่ย และราคาเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลานั้น)

กราฟเรนโก เป็นรูปแบบหนึ่งของกราฟแท่งเทียน ขึ้นอยู่กับ 4 จุด: เปิด, ปิด, ราคาเฉลี่ย และราคาเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลานั้น กราฟเรนโก มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุแนวโน้มและรูปแบบโดยไม่มีสัญญาณรบกวนที่เกิดจากราคาที่ผันผวน

ข้อดี-ข้อเสียของกราฟเรนโก

ข้อดี
  • การกำจัดเสียงรบกวน กราฟเรนโก ไม่สนใจเวลาและมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญ เพื่อกรองสัญญาณรบกวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความเรียบง่ายของการมองเห็น บล็อกเรนโก มีลักษณะคล้ายอิฐ โดยมีสีและตำแหน่งบ่งบอกถึงทิศทางของราคา ทำให้เข้าใจได้ง่ายในการตีความ
  • สัญญาณที่ชัดเจน ด้วยการกรองความผันผวนของราคาเล็กน้อยออก กราฟเรนโก มักจะสร้างสัญญาณการซื้อและขายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ความเป็นอิสระ ด้านเวลากราฟเรนโก ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อวิเคราะห์สินทรัพย์ที่มีความผันผวนของราคาในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน
ข้อเสีย
  • เวลาจะถูกมองข้าม แม้ว่าจะเป็นข้อได้เปรียบ แต่ก็สามารถเป็นข้อเสียได้เช่นกัน เนื่องจากมองข้ามความสำคัญของเวลาซึ่งอาจมีความสำคัญในตลาดการเงิน
  • ข้อกำหนดของโปรเซสเซอร์ที่สูงขึ้น กราฟเรนโก อาจต้องการทรัพยากรคอมพิวเตอร์มากขึ้น เพื่อสร้างและแสดง โดยเฉพาะในกรอบเวลา ที่ต่ำกว่า
  • ข้อมูลลดลง กราฟเรนโก ตัดทอนข้อมูล ซึ่งอาจละเว้นข้อมูลสำคัญและโอกาสในการซื้อขาย
  • มีจำนวนจำกัด แพลตฟอร์มการซื้อขายบางแพลตฟอร์มไม่รองรับกราฟเรนโก ซึ่งเป็นการจำกัดความพร้อมใช้งานของเครื่องมือ
  • กราฟเรนโก อาจมีความแม่นยำน้อยลงในช่วงที่มีความผันผวนของตลาดสูง เนื่องจากจะเพิ่มบล็อกใหม่หลังจากที่ราคาเกินค่าที่กำหนดเท่านั้น

สรุปเกี่ยวกับกราฟเรนโก

โดยสรุป กราฟเรนโก สามารถเป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มและการลดสัญญาณรบกวน อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ การทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ร่วมกับเครื่องมือและกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อตัดสินใจซื้อขายโดยมีข้อมูลครบถ้วน

กราฟไฮเกน อาชิ (Heikin-Ashi charts)

(รูปที่ 5 : กราฟไฮเกน ฮาชิ มีลักษณะคล้ายกราฟแท่งเทียน ระบุค่าเฉลี่ยของราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง)

กราฟไฮเกน อาชิ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของกราฟแท่งเทียน ขึ้นอยู่กับราคาเฉลี่ย กราฟไฮเกน อาชิ มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการระบุแนวโน้มและรูปแบบ

ข้อดี-ข้อเสียของกราฟไฮเกน ฮาชิ

ข้อดี
  • ความเรียบง่าย กราฟไฮเกน อาชิ นั้นเข้าใจง่ายมาก ขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยของราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อน เช่น ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
  • ประสิทธิผล ​กราฟไฮเกน อาชิ มีประสิทธิภาพมากในการระบุแนวโน้มและรูปแบบ เนื่องจากจะกรองเสียงรบกวนที่เกิดจากความผันผวนของราคาเล็กน้อย สิ่งนี้สามารถทำให้เทรดเดอร์เชื่อถือได้มากขึ้นในการตัดสินใจซื้อขาย
  • กราฟไฮเกน อาชิ สามารถใช้กับกลยุทธ์การซื้อขายที่หลากหลาย สิ่งนี้ทำให้กราฟไฮเกน ฮาชิ เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์สำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์
ข้อเสีย
  • ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด กราฟไฮเกน อาชิ ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา เช่น ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดและราคาต่ำ ซึ่งอาจทำให้ระบุรูปแบบบางอย่างได้ยาก
  • อาจล่าช้าได้ กราฟไฮเกน อาชิ อาจล่าช้าได้ ซึ่งหมายความว่าอาจไม่สะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของตลาด เนื่องจากเทียน ไฮเกน ฮาชิเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาไปถึงระดับหนึ่ง สิ่งนี้สามารถทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพน้อยลงในการตัดสินใจซื้อขาย

สรุปเกี่ยวกับกราฟไฮเกน ฮาชิ

การเลือกระหว่างกราฟไฮเกน อาชิ และกราฟประเภทอื่นๆ เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลและกลยุทธ์การซื้อขาย กราฟไฮเกน อาชิ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้เครื่องมือง่ายๆ เพื่อระบุแนวโน้มและรูปแบบ แต่ อาจไม่ได้ผลดีนักสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนมากขึ้น หรือติดตามข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกประเภทกราฟฟอร์เร็กซ์

ระดับประสบการณ์

กราฟเส้นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่เนื่องจากง่ายต่อการเข้าใจ กราฟแท่งและกราฟแท่งเทียนอาจมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์

กลยุทธ์การซื้อขาย

กลยุทธ์การซื้อขายบางอย่างเหมาะกว่าสำหรับกราฟบางประเภท ตัวอย่างเช่น กราฟแท่งเทียนมักใช้สำหรับการซื้อขายโดยอิงตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่นระดับแนวรับและแนวต้าน

ประเภทสินทรัพย์

สินทรัพย์บางประเภทจะแสดงได้ดีกว่าบนกราฟบางประเภท ตัวอย่างเช่น กราฟเส้นอาจมีประโยชน์มากกว่าสำหรับการซื้อขายหุ้นในขณะที่กราฟแท่งหรือกราฟแท่งเทียนอาจมีประโยชน์มากกว่าสำหรับการซื้อขายสกุลเงิน

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกประเภทกราฟฟอร์เร็กซ์

  • เริ่มต้นด้วยกราฟเส้น นี่เป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจพื้นฐานของการเคลื่อนไหวของราคา
  • ลองใช้กราฟแท่งหรือกราฟแท่งเทียนเมื่อคุณพร้อมสำหรับการวิเคราะห์ตลาด โดยละเอียดเพิ่มเติม
  • ทดลองใช้การตั้งค่าและพารามิเตอร์ที่แตกต่างกันสำหรับกราฟแต่ละประเภท คุณสามารถเปลี่ยนกรอบเวลา ขนาด และพารามิเตอร์อื่นๆ เพื่อปรับแต่งกราฟให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้
  • อ่านหนังสือและบทความเกี่ยวกับกราฟประเภทต่างๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อดีและข้อเสียได้ดีขึ้น
  • ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดสำหรับคำถามว่ากราฟประเภทใดดีที่สุดสำหรับคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกประเภทกราฟคือการลองใช้ประเภทต่างๆ และดูว่าคุณชอบประเภทใดมากที่สุด

แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกราฟฟอร์เร็กซ์

เมื่อคุณเลือกประเภทกราฟแล้ว คุณต้องเรียนรู้

ศึกษาวิธีอ่าน

ซึ่งสามารถทำได้โดยการตรวจสอบข้อมูลในอดีตและระบุแนวโน้ม รูปแบบ และความผันผวน มีแหล่งข้อมูลมากมายที่สามารถช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการอ่านกราฟ รวมถึงหนังสือ เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มการซื้อขาย

ฝึกฝน

วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้วิธีอ่านกราฟคือการฝึกฝน ยิ่งคุณดูกราฟมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งเข้าใจกราฟได้ดีขึ้นเท่านั้น

สรุปท้ายบท

  • กราฟฟอร์เร็กซ์ คือการแสดงราคาแบบกราฟิก กราฟราคาพื้นฐานสำหรับแพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ได้แก่ กราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟแท่งเทียน กราฟเรนโก กราฟไฮเกน ฮาชิ
  • กราฟเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตและสามารถใช้เพื่อทำนายแนวโน้มในอนาคต
  • การเลือกกราฟแต่ละประเภท ขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์แต่ละคนว่ากราฟ Forex ประเภทใดที่เหมาะกับสไตล์ของตนเอง
  • เนื่องจากกราฟฟอร์เร็กซ์มีหลายประเภท จึงเหมาะกับการนำในไปประยุกต์สำหรับทุกกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์แต่ละคนต้องการ
  • การอ่านกราฟ จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพประกอบการเคลื่อนไหวของราคาสามารถช่วยระบุแนวโน้มและรูปแบบที่สำคัญ และช่วยให้คุณมองเห็นระดับเข้าและออกที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อมีกราฟเข้ามาช่วย