การซื้อขายฟอเร็กซ์ อาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะว่าด้วยกลยุทธ์และแนวทางที่มีให้เลือกเยอะ จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เรามีกลยุทธ์การซื้อขาย Forex ที่เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เป็นมือใหม่ มาแนะนำให้ทุกท่านได้เอาไปลองประใช้ในการซื้อขาย มาดูว่ามีกลยุทธ์ใดบ้างที่จำเป็นสำหรับมือใหม่ที่สุด
กลยุทธ์การซื้อขาย Forex คืออะไร?
- กลยุทธ์ฟอเร็กซ์ คือชุดของกฎหรือแนวปฏิบัติที่เทรดเดอร์ใช้ในการอ้างอิง เพื่อใช้ตัดสินใจอย่างรอบคอบด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า เมื่อใดควรจะซื้อหรือขายคู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์
- กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล รวมถึงการยอมรับความเสี่ยง และวิธีการวิเคราะห์ตลาดโดยรวมของเทรดเดอร์แต่ละคนด้วย
ลักษณะของกลยุทธ์ Forex ที่มีประสิทธิภาพ
เทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่ศึกษากลยุทธ์การซื้อขายมาหลากหลายวิธี ได้บอกถึงลักษณะของกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเอาไว้ โดยสังเกตองค์ประกอบดังต่อไปนี้
- มีความชัดเจน กลยุทธ์ที่ใช้แล้วได้ผล ควรจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความชัดเจนและเข้าใจง่าย ควรกำหนดเวลาเข้าและออกจากการซื้อขาย มีแผนการบริหารความเสี่ยง และกรอบเวลาการซื้อขาย
- มีความสอดคล้อง กลยุทธ์ควรจะสอดคล้องกันในการประยุกต์ใช้ ควรปฏิบัติตามกฎและแนวทางปฏิบัติโดยไม่เบี่ยงเบน เพื่อรักษาความสม่ำเสมอในการตัดสินใจซื้อขาย
- มีความสามารถในการปรับตัว ตลาด Forex มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ ควรสามารถปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดได้ และเทรดเดอร์เองก็ควรปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มและเงื่อนไขของตลาดในปัจจุบันได้
- มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จควรมีแผนที่ชัดเจน เพื่อลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการตั้งค่าคำสั่งหยุดการขาดทุน และมีกลยุทธ์การออกที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- มีการทดสอบย้อนหลัง กลยุทธ์ควรได้รับการทดสอบย้อนหลัง เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน
แนวทางในการสร้างกลยุทธ์ Forex
มีแนวทางทหลายประการในการสร้างกลยุทธ์การซื้อขายฟอเร็กซ์ ได้แก่
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลราคาและปริมาณในอดีต เพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้ม ช่วยให้เทรดเดอร์กำหนดเวลาเข้าและออกจากการซื้อขายได้
- การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด ช่วยให้เทรดเดอร์มีข้อมูลในการตัดสินใจซื้อขายโดยอิงจากเหตุการณ์ข่าว
- การเคลื่อนไหวของราคา เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา แทนที่จะใช้ตัวชี้วัด ทางเทคนิค ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้
การซื้อขายอัตโนมัติ วิธีการนี้เกี่ยวข้องกับการใช้อัลกอริธึมคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาและทำการซื้อขายที่แม่นยำยิ่งขึ้น
6 กลยุทธ์ Forex ที่เหมาะสำหรับมือใหม่
หากคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นซื้อขาย Forex มีกลยุทธ์ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพหลายประการที่คุณสามารถใช้เพื่อเริ่มต้น ต่อไปนี้เป็นหกกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น
1. Trend-Following strategy

(รูปที่ 1 : กลยุทธ์ Trend-Following strategy)
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุทิศทางของแนวโน้มตลาดและการตัดสินใจซื้อขายตามแนวโน้มนั้น
- เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือ MACD เพื่อระบุแนวโน้มและเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางของแนวโน้ม
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้เมื่อราคาย้อนกลับไปที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือเส้นแนวโน้ม
2. Breakout strategy

(รูปที่ 2 : กลยุทธ์ Breakout strategy)
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุ ระดับ แนวรับและแนวต้าน ที่สำคัญ และการตัดสินใจซื้อขายโดยพิจารณาจากวิธีที่ราคาตอบสนองต่อระดับเหล่านี้
- เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การซื้อขายเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน โดยคาดหวังว่าการฝ่าวงล้อมจะยังคงดำเนินต่อไปในทิศทางเดียวกัน
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้โดยการรอการทะลุที่ได้รับการยืนยัน โดยมีจุดหยุดขาดทุนที่อยู่ต่ำกว่าระดับแนวรับหรือแนวต้าน
3. Moving average crossover strategy

(รูปที่ 3 : กลยุทธ์ Moving average crossover strategy)
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 ค่า ระยะสั้นและระยะยาว เพื่อระบุแนวโน้มในตลาดและทำการตัดสินใจซื้อขายตามเวลาที่ทั้งสองค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ครอสโอเวอร์
- เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางของครอสโอเวอร์ (MA ระยะสั้นข้ามค่าเฉลี่ยระยะยาว) โดยคาดหวังว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในทิศทางนั้น
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้ เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดเหนือ หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว
4. Price action strategy

(รูปที่ 4 : กลยุทธ์ Price action strategy)
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงิน และการตัดสินใจซื้อขายตามรูปแบบราคา เช่น แนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และรูปแบบแท่งเทียน
- เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การซื้อขายตามรูปแบบราคา เหล่านี้ โดยคาดหวังว่าราคาจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดียวกัน
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้ โดยการรอให้รูปแบบราคาเกิดขึ้น แล้วจึงเข้าสู่การซื้อขายเมื่อได้รับการยืนยัน ตัวอย่างของรูปแบบแท่งเทียน ได้แก่ bullish-engulfing, doji, morning star ฯลฯ.
5. Support and resistance strategy

(รูปที่ 5 : กลยุทธ์ Support and resistance strategy)
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุระดับแนวรับและแนวต้าน ที่สำคัญ ในตลาด และการตัดสินใจซื้อขายโดยพิจารณาจากวิธีที่ราคาตอบสนองต่อระดับเหล่านี้
- เทรดเดอร์สามารถเข้าสู่การซื้อขายเมื่อราคาดีดตัวออกจากระดับแนวรับหรือแนวต้าน โดยคาดหวังว่าราคาจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดียวกัน
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้โดยการรอการเด้งที่ยืนยันจากระดับแนวรับหรือแนวต้าน
6. Scalping strategy

(รูปที่ 6 : กลยุทธ์ Scalping strategy ในภาพประกอบด้านบน จะเห็นการซื้อขายแบบ scalping โดยการใช้ตัวชี้วัด MACD เทรดเดอร์จะเข้าสู่การซื้อขายที่สัญญาณซื้อของ MACD (ราคาที่เน้นด้วยกล่องสี่เหลี่ยมสีม่วง) และออกที่สัญญาณขายของ MACD แนะนำให้ใช้กรอบเวลาระหว่าง 30 วินาทีถึง 15 นาทีสำหรับกลยุทธ์นี้ และ การซื้อขาย แบบ Scalping อาจคงอยู่ได้ตั้งแต่วินาทีถึงนาที (ขึ้นอยู่กับสัญญาณที่สร้างโดยตัวบ่งชี้ที่ใช้))
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการเทรดหลายครั้งตลอดทั้งวัน เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย
- เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น RSI หรือ Stochastic Oscillator เพื่อระบุสภาวะการขายมากเกินไปหรือการซื้อมากเกินไป และเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางของแนวโน้มระยะสั้น
- จุดเริ่มต้นสามารถระบุได้โดยการรอการดึงกลับหรือการกลับตัวที่ระดับสำคัญ
วิธีการเลือกใช้กลยุทธ์การซื้อขาย Forex?
การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในตลาด Forex ต่อไปนี้คือข้อควรพิจารณาในการเลือกกลยุทธ์การซื้อขายฟอเร็กซ์
-
กำหนดเป้าหมายและสไตล์การซื้อขายของคุณ
-
- การกำหนดเป้าหมายและสไตล์การซื้อขายของคุณ ก่อนที่จะเลือกกลยุทธ์การซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญ จะช่วยคุณในการกำหนดประเภทของกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด
- ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังมองหาผลกำไรระยะสั้น กลยุทธ์ scalping คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
- แต่ถ้าเป็นกลยุทธ์ตามเทรนด์ อาจเหมาะสมกว่าสำหรับเป้าหมายระยะยาว
-
ประเมินความรู้และประสบการณ์ของคุณ
-
- การศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ในตลาด Forex เป็นสิ่งสำคัญ
- สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ง่ายๆ ที่สอดคล้องกับระดับประสบการณ์ของคุณจะดีกว่า
- เมื่อคุณได้รับความรู้และประสบการณ์มากขึ้น คุณจะค่อยๆ พัฒนาไปสู่กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
-
วิเคราะห์การจัดตำแหน่งตลาดและกลยุทธ์
-
- การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญ
- ตัวอย่างเช่น แผนการติดตามแนวโน้มอาจทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้ม แต่ไม่ใช่ในตลาดที่ไซด์เวย์
- ดังนั้น การประเมินตลาดและการเลือกกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ
-
ทดสอบกลยุทธ์ของคุณ
-
- หลังจากเลือกกลยุทธ์การซื้อขายแล้ว การทดสอบในบัญชีทดลองถือ เป็นสิ่งสำคัญ
- สิ่งนี้ช่วยให้คุณฝึกฝนการซื้อขายโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
- นอกจากนี้ การทดสอบกลยุทธ์ของคุณในบัญชีทดลอง ยังช่วยให้คุณสามารถระบุข้อบกพร่องและปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณก่อนที่จะซื้อขายด้วยเงินจริงด้วย
เคล็ดลับสำหรับผู้เริ่มต้นซื้อขาย Forex
สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเข้าสู่ตลาด Forex ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับจากที่ควรนำไปปรับใช้
-
การเรียนรู้และการฝึกอบรม
-
- ตลาด Forex มีความซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณควรเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ
- แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญได้แก่ เช่น หนังสือ บทความ หลักสูตรออนไลน์ จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้ และเข้าใจกลยุทธ์การซื้อขาย
-
ใช้บัญชีทดลอง
-
- การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง เป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นในการได้รับประสบการณ์การซื้อขายในตลาด Forex โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง
- บัญชีทดลองช่วยให้คุณทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม ทดสอบกลยุทธ์การซื้อขาย และปรับปรุงทักษะของคุณ
-
เริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำๆ ก่อน
-
- แม้ว่าการซื้อขาย Forex สามารถสร้างกำไรได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ เพื่อลดความเสี่ยง
- ในฐานะมือใหม่ เริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำและค่อยๆ เพิ่มการลงทุนของคุณเมื่อคุณได้รับประสบการณ์และความมั่นใจมากขึ้น
-
ซื้อขายโดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
-
- การซื้อขายในตลาด Forex มีความเสี่ยง แต่สิ่งสำคัญคือต้องจัดการความเสี่ยงเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ผู้เริ่มต้นควรมุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยงโดยการตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุน และหลีกเลี่ยงการตัดสินใจซื้อขายโดยใช้อารมณ์
จะรู้ได้อย่างไรว่ากลยุทธ์การซื้อขาย Forex ใช้ได้ผลหรือไม่?
เมื่อคุณเลือกและปรับใช้กลยุทธ์การซื้อขายฟอเร็กซ์แล้ว จำเป็นต้องประเมินประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป มาดูวิธีการพิจารณาว่ากลยุทธ์การซื้อขาย Forex ว่าเหมาะกับคุณหรือไม่?
-
ติดตามประสิทธิภาพการซื้อขายของคุณ
-
- ติดตามการซื้อขายและประสิทธิภาพกลยุทธ์ของคุณเมื่อเวลาผ่านไป โดยการบันทึกจำนวนการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงจำนวนกำไร/ขาดทุน ทุกครั้ง
-
- เมื่อทำเช่นนี้ คุณสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพกลยุทธ์ของคุณกับเป้าหมายการซื้อขายของคุณและพิจารณาว่ากลยุทธ์ของคุณใช้ได้ผลสำหรับคุณหรือไม่
-
เปรียบเทียบกับเป้าหมายการซื้อขายของคุณ
-
- เป้าหมายการซื้อขายของคุณคือวัตถุประสงค์ที่คุณกำหนดไว้ก่อนที่จะมีการซื้อขาย Forex
- หากกลยุทธ์การซื้อขายของคุณช่วยให้คุณบรรลุตามเป้าหมายเหล่านี้ นั่นเป็นข้อบ่งชี้ว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่เช่นนั้น คุณอาจต้องประเมินใหม่และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณ
-
เก็บบันทึกการซื้อขาย
-
- บันทึกการซื้อขายเป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยม ในการประเมินประสิทธิผลของกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
- คุณจำเป็นต้องติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายทุกครั้ง เช่น จุดที่คุณเข้าและออก เหตุผลในการตัดสินใจเข้าสู่การซื้อขาย
- เมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อระบุรูปแบบและทำการปรับเปลี่ยนในกลยุทธ์ของคุณได้
-
ทำการปรับเปลี่ยน
-
- ไม่มีกลยุทธ์การซื้อขายใดที่สมบูรณ์แบบ และอาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเมื่อเวลาผ่านไป การเก็บบันทึกการซื้อขาย สามารถช่วยให้คุณระบุจุดที่ต้องปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณได้
สรุปท้ายบท
- กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดก็คือ กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและสไตล์การซื้อขายของคุณ เช่น กลยุทธ์ Trend-following หรือกลยุทธ์ Breakout strategy
- สื่อการเรียนรู้และบัญชีทดลอง สามารถช่วยสร้างทักษะการซื้อขายของคุณและช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อขายได้
- การเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องมีวินัย ความอดทน และความเต็มใจที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
- คุณต้องยอมสละเวลาจำนวนมาก เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานของการซื้อขาย Forex และพัฒนาแผนการซื้อขายก่อนที่จะใช้เงินจริง
- ไม่มีกลยุทธ์ใดที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในการซื้อขายฟอเร็กซ์ เนื่องจากความสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาวะตลาด ทักษะการซื้อขายของแต่ละคน และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องวิเคราะห์และทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณที่สุดอยู่ตลอด